คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ต่อคะ
แม่ของแฟนเรามาช่วยเลี้ยงหลานให้ 1 สัปดาห์ ตอนที่แม่แฟนมา กทม. เราก็บอกท่านนะคะว่าไปพักที่บ้านน้าดีไหม(น้าก็คือญาติพี่น้องกับแม่แฟนเรานั่นแหละคะ) เราบอกว่ามันสะดวกกว่าพักที่หอเรา บ้านน้ากว้าง แม่จะได้ทำกับข้าวทานสะดวก แม่แฟนก็ตอบว่าไม่เป็นไร ท่านบอกอยู่ที่หอด้วยกันนี่แหละดีแล้ว เราก็คะแล้วแต่แม่ล่ะกัน พอเราสอบเสร็จแม่แฟนก็กลับตจว. เพราะต้องไปทำงาน ลางานมาดูหลานหลายวันล่ะ เราก็ให้แฟนไปส่งที่สถานีขนส่งคะ กลับรถทัวร์ แม่แฟนก็ไปบ่นกับน้องชายของแฟนเราว่า อยากกลับเครื่องบินมากกว่านั่งสะดวกสบายถึงเร็วกว่า บ้านที่ตจว.เราถ้านั่งรถทัวร์จากกทม.ไปใช้เวลา 10-12 ชม.คะ ถ้านั่งเครื่องบินใช้เวลาแค่1 ชม.คะ เราก็บอกแฟนว่าเราไม่มีเงินจะจ่ายให้แม่เธอหรอกนะ ทุกวันนี้เรายังใช้เงินพ่อแม่อยู่เลย แล้วไหนจะค่าใช้จ่ายลูกอีก ตอนที่แม่ของแฟนมาช่วยเลี้ยงลูกเรา แม่ก็ไม่ได้ช่วยออกเงินค่าซื้อกับข้าวมาทำเลยนะ เราเป็นคนรับผิดชอบหมด วันที่แฟนเราไปส่งแม่เค้าที่สถานีขนส่งเรามีเงินในกระเป๋าแค่ 200ติดตัว แฟนเราเค้าก็บอกเค้าเอาไปก่อนนะเงินเดือนเค้ายังไม่ออก เราก็อืม บอกว่าจ่ายประหยัดด้วยล่ะ เค้าก็จ่ายค่าแท็กซี่ไป 80 ตอนกลับเค้านั่งรถเมล์กลับมาคนเดียว เราไม่ได้ไปส่งด้วย เราต้องอยู่เลี้ยงลูก เราก็ถามเงินเหลือเท่าไหร่ เราจะเอาไปซื้ออะไรกินซะหน่อย เค้าก็ตอบมาไม่เหลือ หมดแล้ว เราก็แบบเฮ้ยยยย!!! จ่ายอะไรไปว่ะ แฟนเรามันก็บอกอ๋อ เอาให้น้องซื้อขนมไป เราก็ถามทำไมน้องไม่เอาเงินที่แม่ซื้อล่ะ เธอก็รู้นี่ว่าเราไม่มีเงินแล้ว เราพูดจบก็ร้องไห้เลยคะ แบบแล้วจะเอาเงินที่ไหนซื้อข้าว ไม่มีเงินสักบาทเดียว เราโกรธแฟนมากไม่คุยกับแฟน เราก็โทรหาพี่ชายเรา เราถามพี่ชายเราว่ามีเงินซัก200ไหม เราขอหน่อยเราไม่มีเงินกินข้าว พี่เราก็โอนมาให้ (ปล.น้องชายของแฟนเรามาที่หอเราคือแบบไม่มีมารยาทเลยคะ เราซื้อขนมตั้งไว้แล้วแบบหยิบกินหมดเลยไม่ขออนุญาตสักคำ กับข้าวก็เหมือนกันคือแบบกินคนเดียวหมดเลยไม่เหลือไว้ให้คนอื่นกินคะเห็นแก่ตัวสุดๆ เรานี่แบบหมั่นไส้อยากจะด่าอยากจะสั่งสอนมากๆเลย และบางทีก็แบบลุกไปเปิดทีวีเสียงดัง ดูทีวีทั้งวัน คือเราไม่ได้แบบงกค่าไฟหรอกนะแต่คือลูกเราเพิ่งคลอดอยากให้ลูกนอนสบายๆไม่มีเสียงรบกวน ปกติเราอยู่กับแฟนเราไม่ค่อยเปิดทีวีดูกันคะ แล้วไหนจะชาร์จแบตโทรศัพท์อีกตั้งหลายเครื่อง ไหนจะเปิดแอร์อีก แล้วแฟนเราเค้าไม่ได้มารับผิดชอบในส่วนนี้พ่อเราเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด) พอใกล้ถึงสิ้นเดือนแฟนเราก็บอกเราว่าเค้าจะลาออกจากงานแล้วนะ จะไปหางานที่บ้าน ตจว. ทำ เพราะเราก็ปิดเทอมแล้ว เอาลูกไปเลี้ยงที่นู่น เราก็เงียบไม่พูดไม่คุยเพราะยังโกรธอยู่ แฟนเราจัดการตั๋วเครื่องบินเสร็จ เราก็บอกว่ากลับไปคนเดียวเถอะ เราไม่กลับเราจะอยู่กับลูกที่ กทม. แฟนเรามันก็โมโหด่าเรา บ้ารึเปล่า จะอยู่กับลูกได้ยังไง อย่าเอาแต่ใจตัวเองสิ่ เราก็บอกเราไม่ได้อยากกลับ เราไม่อยากไปอยู่บ้านเธอ มันลำบาก จะให้เราไปนอนตรงไหน บ้านหลังเหล็กมีห้องเล็กห้องเดียว หน้าทีวีก็แคบจะนอนกันยังไงสามคนพ่อแม่ลูก บนบ้านหลังใหญ่น้องเธอก็อยู่ ไหนจะบ้านเธอเลี้ยงแมวเลี้ยงเป็ดไว้เป็นเล้าๆ สกปรกจะตาย เราไม่ไปหรอก คือเรามีลูกอ่อนไงคะ แล้วแบบสถานที่สิ่งแวดล้อมมันก็ไม่โอเคแล้วอ่ะคะ พอถึงวันที่แฟนเราจองตั๋วกลับตจว.เราก็อืมกลับก็กลับว่ะ ลองดูสักตั้งเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น พอบินถึงตจว.ญาติๆแฟนก็มารับที่สนามบิน คืนแรกที่เราไปถึงเราตัดสินใจนอนที่บ้านแฟนบ้านหลังใหญ่นอนหน้าทีวี พอคืนที่สองเราบอกย้ายไปนอนบ้านยายของแฟนดีกว่าสะดวกกว่าเพราะมันมีห้องว่างไม่มีใครอยู่ แฟนเราก็ตกลงคะ เราอยู่บ้านยายของแฟนเราช่วยดูแลตากับยายของแฟนด้วยคะ ตอนนั้นแฟนเรายังไม่ได้ทำงานเพราะไปสมัครงานทิ้งไว้แต่ยังไม่มีที่ไหนติดต่อไปเลย แฟนเราก็เริ่มเลยคะตามสเต็ปเดิมขี่รถตระเวณไปบ้านเพื่อน บางทีก็ไปตกปลา ตกเย็นไปเตะบอล กลับจากเตะบอลก็อาบน้ำไปสุเหร่าไปละหมาด กลับจากสุเหร่าก็ขับรถไปที่บ้านแม่ กลับบ้านมาอยู่กับลูกสามทุ่มครึ่ง สี่ทุ่มลูกหลับไปแล้ว ทิ้งให้เราเลี้ยงลูกอยู่ตามลำพัง กว่าแฟนจะตื่นนอนบางทีก็สาย บางทีก็เกือบเที่ยง เราต้องเป็นคนจัดการดูแลลูกเองทั้งหมด เราต้องตื่นตั้งแต่เช้าพาลูกไปอาบน้ำ แต่งตัวให้ลูกชงนม ให้ลูกนอน ทำแบบนี้ทุกวันๆจนเราเริ่มเบื่อ เราไม่ได้เบื่อลูกหรอกนะ เรามีความสุขที่ได้ดูแลคนที่เป็นเหมือนชีวิตของเรา แต่เราเบื่อแฟนที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ช่วยเราดูแลลูก เราก็ด่าแฟนว่าช่วยอยู่ให้ติดบ้านหน่อยได้ไหม ช่วยเราเลี้ยงลูกบ้าง เรานี้แทบจะไม่มีเวลาอาบน้ำกินข้าวเลย บางที่ลุกหลับแป๊ปเดียว เรากำลังจะไปอาบน้ำกินข้าว เอ้าลูกตื่นละ เราด่าแฟนเราก็พูดต่อหน้าพ่อกับแม่เค้าเลยนะ ว่าเนี่ยไม่ค่อยอยู๋ติดบ้านไม่ช่วยเราเลี้ยงลูกเลย เป็นพ่อประสาอะไรเนี่ย แม่แฟนก็สวนกลับมาด่าเราเลยคะ อ้าวเป็นเมียก็ต้องดูแลลูกสิ่ไม่อย่างงั้นจะมีเมียไว้ทำอะไร ตอนแม่คลอดลูก ลูก6 คนแม่เลี้ยงคนเดียวไม่เห็นจะมีใครช่วยเลย ทำคนเดียวได้ เราก็แบบเฮ้อออ นี่เหรอคนที่เราเลือกมาเป็นคู่ชีวิต เราก็บอกให้แฟนหางานทำเป็นหลักเป็นแหล่งได้ล่ะ รับผิดชอบค่านมค่าผ้าอ้อมลูกบ้าง นี่อะไรอยู่เฉยๆวันนึงไม่ทำอะไรยกเว้นกิน นอน เที่ยว แม่มันก็บอกว่าทีตอนมันจไปทำงานกับพี่ชายมันเราก็ไม่ให้ไป เราบอกทำงานอ่ะคิดด้วยว่าคุ้มค่าแรงรึเปล่า เงินจะพอจ่ายในครอบครัวไหม คิดดูสิ่ทำงาน 8โมงเช้าเลิกงาน 1 ทุ่ม ได้ค่าแรงวันละ280บาท เหนื่อยไม่คุ้มอย่ามีสมองไว้คั่นหูสิ่ ต่อมาวันนึงลูกเราครบกำหนดที่จะต้องฉีดวัคซีนเราก็พาไปฉีดวัคซีนที่คลินิกเป็นวัคซีนทางเลือก เข็มนึง 1500บาท แต่หมอเค้าบอกว่าไม่ต้องห่วงวัคซีนตัวนี้ฉีดแล้วเด็กจะไม่มีอาการเป็นไข้ เราก็โอเค เพราะมันครอบคลุม 6 โรค แีดวัคซีนเสร็จกลับถึงบ้านยายของแฟน แม่แฟนยายแฟนก็รออยู่ ก็ถามว่าเป็นไงบ้างคาวัคซีนเท่าไหร่ เราก็บอก 1500 บาท เท่านั้นแหละค่าาาาาา แม่แฟนด่าเลย บอกว่าเราอ่ะใช้เงินสิ้นเปลือง ทำไมไม่พาไปฉีดวัคซีนฟรีที่อนามัย เราก็ไม่พูดอะไรไม่อยากพูดด้วยรำคาญก็เดินหนี เรางงมากคะ เงินที่พาลูกไปฉีดวัคซีนมันเงินพ่อเราพ่อเราโอนมาให้พ่อเราไม่บ่นสักคำ แล้วแม่แฟนเราเคาจะอะไรหนักหนา ไม่ใช่เงินเค้าสักบาทนึง เค้าเป็นเดือดเป็นร้อนจัง หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จอีกสัปดาห์นึงลูกเราก็ไม่สบาย เพราะช่วงนั้นอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย บางวันก็ร้อนจัด บางวันก็ฝนตก ตอนเช้าเราวัดไข้ลูกเราอุณหภูมิปกติ เราก็จับลูกอาบน้ำอุ่นจะได้กินนมนอนหลับสบาย พอสายๆประมาณ10โมงเรารู้สึกว่าลูกเริ่มซึมๆแปลก เริ่มตัวร้อนด้วย เราวัดไข้อีกครั้งคะคราวนี้อุณหภูมิสูง 37.8 คือลูกเริ่มีไข้ล่ะ เราเลยเช็ดตัวให้รอดูอาการ เราก็รีบโทรหาแฟนตอนนั้นแฟนเราไปบ้านเพื่อนคะ เราบอกให้รีบมาที่บ้านหน่อยลูกไม่สบาย ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่าแฟนจะมาเราบอกให้ดูลูกหน่อยเราจะไปอาบน้ำ พอเราอาบน้ำเสร็จแฟนเราวัดไข้ลูกบอกว่าลูกไข้สูง 38.9 เรารีบแต่งตัวพาลูกไปหาหมอคลินิกเลยคะ เพราะวันนั้นมันเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์เราไม่รู้ว่าที่อนามัยจะเปิดรึเปล่า เราเลยตัดสินใจพาลูกไปคลินิก เราโทรไปหาพ่อเราคะบอกว่าลูกเราไม่สบายพ่อก็บอกให้รีบพาไปหาหมอ เดี๋ยวค่าใช้จ่ายพ่อจะจัดการโอนเงินให้ ปรากฏว่าไปถึงคลินิกก็ได้ตรวจเลย ตรวจเสร็จรับยาแล้วก็กลับบ้านได้ เสียค่าหมอค่ายาไป 500 พอแม่แฟนเราเลิกงานก็กลับบ้านมาดูหลาน ถามเราจ่ายค่าหมอไปเท่าไหร่เราก็บอกไป แม่แฟนด่าเราบอกว่าทำไมไม่ไปหาหมอที่แม่แนะนำราคา๔ุกกว่านี้แน่นอน เราก็บอกว่ามันไกล เรารีบด้วยลูกไข้ขึ้นสูง ตอนแรกแม่แฟนเราบอกว่าเค้าจะจ่ายค่าหมอให้ลูกเรา แต่ให้เราจ่ายไปก่อนเลิกงานมาเดี๋ยวเค้าเอาเงินมาให้เพราะเราโทรไปถามแม่แฟนคะว่าวันนี้อนามัยแถวบ้านเปิดรึเปล่า สุดท้ายแม่ก็เนียนคะทำเป็นลืมมมมมม พอตอนค่ำแฟนเราไปละหมาดที่สุเหร่าเราก็สั่งให้รีบๆกลับมา อย่าไปแวะบ้านเพื่อนอีกล่ะ เพราะจะได้ป้อนยาให้ลูกด้วย คือทำคนเดียวไม่ได้จริงๆลูกดื้อยามากกกกก รอจนสามทุ่มครึ่งละแฟนตัวดีก็ยังไม่โผล่มา เราโมโหและโกรธมากที่แฟนเราไม่สนใจลูกเลยทั้งๆที่รู้ว่าลูกไม่สบาย แล้วลูกก็งองแด้วย แม่กับพ่อแฟนก็นั่งอยู่ พอแฟนเรากลับมาถึงเท่านั้นล่ะ เราอาละวาดเลย เราบอกทำไม่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาบ้างลูกไม่สบายอยู่ ยาก็ไม่ได้ป้อนเนี่ยจนลูกหลับไปแล้วเนี่ย เป็นพ่อประสาอะไร มีพ่อแบบนี้ไม่มีซะดีกว่า แม่แฟนเลยก็สวนเรามาทันทีเลยคะ งั้นก็ไปหาผัวใหม่สิ่ เรานี่เงิบเลยคะ ทั้งจุกทั้งแค้น แต่เราก็เงียบไม่ตอบโต้กลับไป เราพูดประโยคเดียวแล้วจะเสียใจ เราไม่รู้จะทำยังไงเลยโทรไปปรึกษากับพี่สาวซึ่งเป็นลูกสาวของอาเราคะ ว่าเราอยากพาลูกกลับไปอยู่บ้าน ช่วยคุยกับพ่อแม่เราให้หน่อย พ่อเราก็บอกว่าอยากจะเอาหลานไปเลี้ยงที่บ้านนะแต่แม่เราไม่สบายไม่แข็งแรงเลี้ยงไม่ไหวเพราะแผลผ่าตัดยังอักเสบอยู่ แม่เราก็บอกว่าให้แฟนเราเอาลูกไปเลี้ยงเอาไปรับผิดชอบก่อน พอเราเรียนจบมีงานทำแล้วค่อยไปรับลูกกลับมาเลี้ยงเอง เราก็ร้องไห้บอกแม่ว่าไม่เอาเราไม่ให้เค้าเอาลูกเราไปเลี้ยง บ้านเค้าสกปรก เค้าเลี้ยงลูกเราไม่สะอาด คือเรากังวลไงคะถ้าเราไม่ได้เลี้ยงลูกเองลูกเราต้องกินนมผง เค้าจะให้ลูกเรากินนมแบบราคาถูกๆไม่มีคุณภาพรึเปล่า เค้าเลี้ยงไม่ค่อยสะอาดด้วย เราสังเกตตอนที่แม่แฟนมาช่วยเลี้ยงตอนเราคลอดใหม่ๆ แม่เราก็บอกจะให้ทำยังไง แม่กับพ่ออายคนแถวๆละแวกบ้าน เค้าต้องเอาไปนินทาแน่ๆ เพราะเค้าเคยมาถามแม่เราคะ ว่าเราท้องจริงเหรอ อะไรอย่างงี้ แม่เราก็ยืนยันให้ทางแฟนเราเอาไปเลี้ยง เราเลยตัดสินใจโทรไปคุยกับพ่อด้วยตัวเอง เราโทรไปพ่อเราเริ่มใจอ่อน พ่อหรับสายเราก็ขอโทษพ่อทันที เราบอกว่าพ่อช่วยส่งเราเรียนต่อให้จบป.ตรีก่อนนะ เราจะได้หางานทำเลี้ยงลูกเราพ่อก็ตอบตกลง เราก็บอกพ่อว่าให้เราเอาลูกไปเลี้ยงที่บ้านของเรานะ พ่อก็บอกว่าให้เอาไปบ้านยายพ่อจะจ้างยายเลี้ยง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดพ่อเรารับผิดชอบเองแต่มีข้อแม้คือเราต้องเลิกคุยเลิกติดต่อกับแฟนและทางครอบครัวเค้าด้วย ถ้าไม่ทำตามนี้พ่อบอกพ่อจะตัดเราไล่เราให้ไปอยู่กับแฟนไม่ส่งเสียไม่ยุ่งกับเราและลูกเราอีก เราก็บอกว่าตกลง เราตัดสินใจพาลูกย้ายกลับไปอยู่บ้านของเรา เราเอาลูกไปส่งที่บ้านยาย เราก็แว่บๆไปดูบ้างเป็นเวลา คืนแรกเรากลับถึงบ้านเรา ร้องไห้เลยคะ คิดถึงลูกเป็นห่วงลูกมากกกกกกกก
แม่ของแฟนเรามาช่วยเลี้ยงหลานให้ 1 สัปดาห์ ตอนที่แม่แฟนมา กทม. เราก็บอกท่านนะคะว่าไปพักที่บ้านน้าดีไหม(น้าก็คือญาติพี่น้องกับแม่แฟนเรานั่นแหละคะ) เราบอกว่ามันสะดวกกว่าพักที่หอเรา บ้านน้ากว้าง แม่จะได้ทำกับข้าวทานสะดวก แม่แฟนก็ตอบว่าไม่เป็นไร ท่านบอกอยู่ที่หอด้วยกันนี่แหละดีแล้ว เราก็คะแล้วแต่แม่ล่ะกัน พอเราสอบเสร็จแม่แฟนก็กลับตจว. เพราะต้องไปทำงาน ลางานมาดูหลานหลายวันล่ะ เราก็ให้แฟนไปส่งที่สถานีขนส่งคะ กลับรถทัวร์ แม่แฟนก็ไปบ่นกับน้องชายของแฟนเราว่า อยากกลับเครื่องบินมากกว่านั่งสะดวกสบายถึงเร็วกว่า บ้านที่ตจว.เราถ้านั่งรถทัวร์จากกทม.ไปใช้เวลา 10-12 ชม.คะ ถ้านั่งเครื่องบินใช้เวลาแค่1 ชม.คะ เราก็บอกแฟนว่าเราไม่มีเงินจะจ่ายให้แม่เธอหรอกนะ ทุกวันนี้เรายังใช้เงินพ่อแม่อยู่เลย แล้วไหนจะค่าใช้จ่ายลูกอีก ตอนที่แม่ของแฟนมาช่วยเลี้ยงลูกเรา แม่ก็ไม่ได้ช่วยออกเงินค่าซื้อกับข้าวมาทำเลยนะ เราเป็นคนรับผิดชอบหมด วันที่แฟนเราไปส่งแม่เค้าที่สถานีขนส่งเรามีเงินในกระเป๋าแค่ 200ติดตัว แฟนเราเค้าก็บอกเค้าเอาไปก่อนนะเงินเดือนเค้ายังไม่ออก เราก็อืม บอกว่าจ่ายประหยัดด้วยล่ะ เค้าก็จ่ายค่าแท็กซี่ไป 80 ตอนกลับเค้านั่งรถเมล์กลับมาคนเดียว เราไม่ได้ไปส่งด้วย เราต้องอยู่เลี้ยงลูก เราก็ถามเงินเหลือเท่าไหร่ เราจะเอาไปซื้ออะไรกินซะหน่อย เค้าก็ตอบมาไม่เหลือ หมดแล้ว เราก็แบบเฮ้ยยยย!!! จ่ายอะไรไปว่ะ แฟนเรามันก็บอกอ๋อ เอาให้น้องซื้อขนมไป เราก็ถามทำไมน้องไม่เอาเงินที่แม่ซื้อล่ะ เธอก็รู้นี่ว่าเราไม่มีเงินแล้ว เราพูดจบก็ร้องไห้เลยคะ แบบแล้วจะเอาเงินที่ไหนซื้อข้าว ไม่มีเงินสักบาทเดียว เราโกรธแฟนมากไม่คุยกับแฟน เราก็โทรหาพี่ชายเรา เราถามพี่ชายเราว่ามีเงินซัก200ไหม เราขอหน่อยเราไม่มีเงินกินข้าว พี่เราก็โอนมาให้ (ปล.น้องชายของแฟนเรามาที่หอเราคือแบบไม่มีมารยาทเลยคะ เราซื้อขนมตั้งไว้แล้วแบบหยิบกินหมดเลยไม่ขออนุญาตสักคำ กับข้าวก็เหมือนกันคือแบบกินคนเดียวหมดเลยไม่เหลือไว้ให้คนอื่นกินคะเห็นแก่ตัวสุดๆ เรานี่แบบหมั่นไส้อยากจะด่าอยากจะสั่งสอนมากๆเลย และบางทีก็แบบลุกไปเปิดทีวีเสียงดัง ดูทีวีทั้งวัน คือเราไม่ได้แบบงกค่าไฟหรอกนะแต่คือลูกเราเพิ่งคลอดอยากให้ลูกนอนสบายๆไม่มีเสียงรบกวน ปกติเราอยู่กับแฟนเราไม่ค่อยเปิดทีวีดูกันคะ แล้วไหนจะชาร์จแบตโทรศัพท์อีกตั้งหลายเครื่อง ไหนจะเปิดแอร์อีก แล้วแฟนเราเค้าไม่ได้มารับผิดชอบในส่วนนี้พ่อเราเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด) พอใกล้ถึงสิ้นเดือนแฟนเราก็บอกเราว่าเค้าจะลาออกจากงานแล้วนะ จะไปหางานที่บ้าน ตจว. ทำ เพราะเราก็ปิดเทอมแล้ว เอาลูกไปเลี้ยงที่นู่น เราก็เงียบไม่พูดไม่คุยเพราะยังโกรธอยู่ แฟนเราจัดการตั๋วเครื่องบินเสร็จ เราก็บอกว่ากลับไปคนเดียวเถอะ เราไม่กลับเราจะอยู่กับลูกที่ กทม. แฟนเรามันก็โมโหด่าเรา บ้ารึเปล่า จะอยู่กับลูกได้ยังไง อย่าเอาแต่ใจตัวเองสิ่ เราก็บอกเราไม่ได้อยากกลับ เราไม่อยากไปอยู่บ้านเธอ มันลำบาก จะให้เราไปนอนตรงไหน บ้านหลังเหล็กมีห้องเล็กห้องเดียว หน้าทีวีก็แคบจะนอนกันยังไงสามคนพ่อแม่ลูก บนบ้านหลังใหญ่น้องเธอก็อยู่ ไหนจะบ้านเธอเลี้ยงแมวเลี้ยงเป็ดไว้เป็นเล้าๆ สกปรกจะตาย เราไม่ไปหรอก คือเรามีลูกอ่อนไงคะ แล้วแบบสถานที่สิ่งแวดล้อมมันก็ไม่โอเคแล้วอ่ะคะ พอถึงวันที่แฟนเราจองตั๋วกลับตจว.เราก็อืมกลับก็กลับว่ะ ลองดูสักตั้งเผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้น พอบินถึงตจว.ญาติๆแฟนก็มารับที่สนามบิน คืนแรกที่เราไปถึงเราตัดสินใจนอนที่บ้านแฟนบ้านหลังใหญ่นอนหน้าทีวี พอคืนที่สองเราบอกย้ายไปนอนบ้านยายของแฟนดีกว่าสะดวกกว่าเพราะมันมีห้องว่างไม่มีใครอยู่ แฟนเราก็ตกลงคะ เราอยู่บ้านยายของแฟนเราช่วยดูแลตากับยายของแฟนด้วยคะ ตอนนั้นแฟนเรายังไม่ได้ทำงานเพราะไปสมัครงานทิ้งไว้แต่ยังไม่มีที่ไหนติดต่อไปเลย แฟนเราก็เริ่มเลยคะตามสเต็ปเดิมขี่รถตระเวณไปบ้านเพื่อน บางทีก็ไปตกปลา ตกเย็นไปเตะบอล กลับจากเตะบอลก็อาบน้ำไปสุเหร่าไปละหมาด กลับจากสุเหร่าก็ขับรถไปที่บ้านแม่ กลับบ้านมาอยู่กับลูกสามทุ่มครึ่ง สี่ทุ่มลูกหลับไปแล้ว ทิ้งให้เราเลี้ยงลูกอยู่ตามลำพัง กว่าแฟนจะตื่นนอนบางทีก็สาย บางทีก็เกือบเที่ยง เราต้องเป็นคนจัดการดูแลลูกเองทั้งหมด เราต้องตื่นตั้งแต่เช้าพาลูกไปอาบน้ำ แต่งตัวให้ลูกชงนม ให้ลูกนอน ทำแบบนี้ทุกวันๆจนเราเริ่มเบื่อ เราไม่ได้เบื่อลูกหรอกนะ เรามีความสุขที่ได้ดูแลคนที่เป็นเหมือนชีวิตของเรา แต่เราเบื่อแฟนที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ช่วยเราดูแลลูก เราก็ด่าแฟนว่าช่วยอยู่ให้ติดบ้านหน่อยได้ไหม ช่วยเราเลี้ยงลูกบ้าง เรานี้แทบจะไม่มีเวลาอาบน้ำกินข้าวเลย บางที่ลุกหลับแป๊ปเดียว เรากำลังจะไปอาบน้ำกินข้าว เอ้าลูกตื่นละ เราด่าแฟนเราก็พูดต่อหน้าพ่อกับแม่เค้าเลยนะ ว่าเนี่ยไม่ค่อยอยู๋ติดบ้านไม่ช่วยเราเลี้ยงลูกเลย เป็นพ่อประสาอะไรเนี่ย แม่แฟนก็สวนกลับมาด่าเราเลยคะ อ้าวเป็นเมียก็ต้องดูแลลูกสิ่ไม่อย่างงั้นจะมีเมียไว้ทำอะไร ตอนแม่คลอดลูก ลูก6 คนแม่เลี้ยงคนเดียวไม่เห็นจะมีใครช่วยเลย ทำคนเดียวได้ เราก็แบบเฮ้อออ นี่เหรอคนที่เราเลือกมาเป็นคู่ชีวิต เราก็บอกให้แฟนหางานทำเป็นหลักเป็นแหล่งได้ล่ะ รับผิดชอบค่านมค่าผ้าอ้อมลูกบ้าง นี่อะไรอยู่เฉยๆวันนึงไม่ทำอะไรยกเว้นกิน นอน เที่ยว แม่มันก็บอกว่าทีตอนมันจไปทำงานกับพี่ชายมันเราก็ไม่ให้ไป เราบอกทำงานอ่ะคิดด้วยว่าคุ้มค่าแรงรึเปล่า เงินจะพอจ่ายในครอบครัวไหม คิดดูสิ่ทำงาน 8โมงเช้าเลิกงาน 1 ทุ่ม ได้ค่าแรงวันละ280บาท เหนื่อยไม่คุ้มอย่ามีสมองไว้คั่นหูสิ่ ต่อมาวันนึงลูกเราครบกำหนดที่จะต้องฉีดวัคซีนเราก็พาไปฉีดวัคซีนที่คลินิกเป็นวัคซีนทางเลือก เข็มนึง 1500บาท แต่หมอเค้าบอกว่าไม่ต้องห่วงวัคซีนตัวนี้ฉีดแล้วเด็กจะไม่มีอาการเป็นไข้ เราก็โอเค เพราะมันครอบคลุม 6 โรค แีดวัคซีนเสร็จกลับถึงบ้านยายของแฟน แม่แฟนยายแฟนก็รออยู่ ก็ถามว่าเป็นไงบ้างคาวัคซีนเท่าไหร่ เราก็บอก 1500 บาท เท่านั้นแหละค่าาาาาา แม่แฟนด่าเลย บอกว่าเราอ่ะใช้เงินสิ้นเปลือง ทำไมไม่พาไปฉีดวัคซีนฟรีที่อนามัย เราก็ไม่พูดอะไรไม่อยากพูดด้วยรำคาญก็เดินหนี เรางงมากคะ เงินที่พาลูกไปฉีดวัคซีนมันเงินพ่อเราพ่อเราโอนมาให้พ่อเราไม่บ่นสักคำ แล้วแม่แฟนเราเคาจะอะไรหนักหนา ไม่ใช่เงินเค้าสักบาทนึง เค้าเป็นเดือดเป็นร้อนจัง หลังจากฉีดวัคซีนเสร็จอีกสัปดาห์นึงลูกเราก็ไม่สบาย เพราะช่วงนั้นอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย บางวันก็ร้อนจัด บางวันก็ฝนตก ตอนเช้าเราวัดไข้ลูกเราอุณหภูมิปกติ เราก็จับลูกอาบน้ำอุ่นจะได้กินนมนอนหลับสบาย พอสายๆประมาณ10โมงเรารู้สึกว่าลูกเริ่มซึมๆแปลก เริ่มตัวร้อนด้วย เราวัดไข้อีกครั้งคะคราวนี้อุณหภูมิสูง 37.8 คือลูกเริ่มีไข้ล่ะ เราเลยเช็ดตัวให้รอดูอาการ เราก็รีบโทรหาแฟนตอนนั้นแฟนเราไปบ้านเพื่อนคะ เราบอกให้รีบมาที่บ้านหน่อยลูกไม่สบาย ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่าแฟนจะมาเราบอกให้ดูลูกหน่อยเราจะไปอาบน้ำ พอเราอาบน้ำเสร็จแฟนเราวัดไข้ลูกบอกว่าลูกไข้สูง 38.9 เรารีบแต่งตัวพาลูกไปหาหมอคลินิกเลยคะ เพราะวันนั้นมันเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์เราไม่รู้ว่าที่อนามัยจะเปิดรึเปล่า เราเลยตัดสินใจพาลูกไปคลินิก เราโทรไปหาพ่อเราคะบอกว่าลูกเราไม่สบายพ่อก็บอกให้รีบพาไปหาหมอ เดี๋ยวค่าใช้จ่ายพ่อจะจัดการโอนเงินให้ ปรากฏว่าไปถึงคลินิกก็ได้ตรวจเลย ตรวจเสร็จรับยาแล้วก็กลับบ้านได้ เสียค่าหมอค่ายาไป 500 พอแม่แฟนเราเลิกงานก็กลับบ้านมาดูหลาน ถามเราจ่ายค่าหมอไปเท่าไหร่เราก็บอกไป แม่แฟนด่าเราบอกว่าทำไมไม่ไปหาหมอที่แม่แนะนำราคา๔ุกกว่านี้แน่นอน เราก็บอกว่ามันไกล เรารีบด้วยลูกไข้ขึ้นสูง ตอนแรกแม่แฟนเราบอกว่าเค้าจะจ่ายค่าหมอให้ลูกเรา แต่ให้เราจ่ายไปก่อนเลิกงานมาเดี๋ยวเค้าเอาเงินมาให้เพราะเราโทรไปถามแม่แฟนคะว่าวันนี้อนามัยแถวบ้านเปิดรึเปล่า สุดท้ายแม่ก็เนียนคะทำเป็นลืมมมมมม พอตอนค่ำแฟนเราไปละหมาดที่สุเหร่าเราก็สั่งให้รีบๆกลับมา อย่าไปแวะบ้านเพื่อนอีกล่ะ เพราะจะได้ป้อนยาให้ลูกด้วย คือทำคนเดียวไม่ได้จริงๆลูกดื้อยามากกกกก รอจนสามทุ่มครึ่งละแฟนตัวดีก็ยังไม่โผล่มา เราโมโหและโกรธมากที่แฟนเราไม่สนใจลูกเลยทั้งๆที่รู้ว่าลูกไม่สบาย แล้วลูกก็งองแด้วย แม่กับพ่อแฟนก็นั่งอยู่ พอแฟนเรากลับมาถึงเท่านั้นล่ะ เราอาละวาดเลย เราบอกทำไม่ไม่รู้จักเวล่ำเวลาบ้างลูกไม่สบายอยู่ ยาก็ไม่ได้ป้อนเนี่ยจนลูกหลับไปแล้วเนี่ย เป็นพ่อประสาอะไร มีพ่อแบบนี้ไม่มีซะดีกว่า แม่แฟนเลยก็สวนเรามาทันทีเลยคะ งั้นก็ไปหาผัวใหม่สิ่ เรานี่เงิบเลยคะ ทั้งจุกทั้งแค้น แต่เราก็เงียบไม่ตอบโต้กลับไป เราพูดประโยคเดียวแล้วจะเสียใจ เราไม่รู้จะทำยังไงเลยโทรไปปรึกษากับพี่สาวซึ่งเป็นลูกสาวของอาเราคะ ว่าเราอยากพาลูกกลับไปอยู่บ้าน ช่วยคุยกับพ่อแม่เราให้หน่อย พ่อเราก็บอกว่าอยากจะเอาหลานไปเลี้ยงที่บ้านนะแต่แม่เราไม่สบายไม่แข็งแรงเลี้ยงไม่ไหวเพราะแผลผ่าตัดยังอักเสบอยู่ แม่เราก็บอกว่าให้แฟนเราเอาลูกไปเลี้ยงเอาไปรับผิดชอบก่อน พอเราเรียนจบมีงานทำแล้วค่อยไปรับลูกกลับมาเลี้ยงเอง เราก็ร้องไห้บอกแม่ว่าไม่เอาเราไม่ให้เค้าเอาลูกเราไปเลี้ยง บ้านเค้าสกปรก เค้าเลี้ยงลูกเราไม่สะอาด คือเรากังวลไงคะถ้าเราไม่ได้เลี้ยงลูกเองลูกเราต้องกินนมผง เค้าจะให้ลูกเรากินนมแบบราคาถูกๆไม่มีคุณภาพรึเปล่า เค้าเลี้ยงไม่ค่อยสะอาดด้วย เราสังเกตตอนที่แม่แฟนมาช่วยเลี้ยงตอนเราคลอดใหม่ๆ แม่เราก็บอกจะให้ทำยังไง แม่กับพ่ออายคนแถวๆละแวกบ้าน เค้าต้องเอาไปนินทาแน่ๆ เพราะเค้าเคยมาถามแม่เราคะ ว่าเราท้องจริงเหรอ อะไรอย่างงี้ แม่เราก็ยืนยันให้ทางแฟนเราเอาไปเลี้ยง เราเลยตัดสินใจโทรไปคุยกับพ่อด้วยตัวเอง เราโทรไปพ่อเราเริ่มใจอ่อน พ่อหรับสายเราก็ขอโทษพ่อทันที เราบอกว่าพ่อช่วยส่งเราเรียนต่อให้จบป.ตรีก่อนนะ เราจะได้หางานทำเลี้ยงลูกเราพ่อก็ตอบตกลง เราก็บอกพ่อว่าให้เราเอาลูกไปเลี้ยงที่บ้านของเรานะ พ่อก็บอกว่าให้เอาไปบ้านยายพ่อจะจ้างยายเลี้ยง ค่าใช้จ่ายทั้งหมดพ่อเรารับผิดชอบเองแต่มีข้อแม้คือเราต้องเลิกคุยเลิกติดต่อกับแฟนและทางครอบครัวเค้าด้วย ถ้าไม่ทำตามนี้พ่อบอกพ่อจะตัดเราไล่เราให้ไปอยู่กับแฟนไม่ส่งเสียไม่ยุ่งกับเราและลูกเราอีก เราก็บอกว่าตกลง เราตัดสินใจพาลูกย้ายกลับไปอยู่บ้านของเรา เราเอาลูกไปส่งที่บ้านยาย เราก็แว่บๆไปดูบ้างเป็นเวลา คืนแรกเรากลับถึงบ้านเรา ร้องไห้เลยคะ คิดถึงลูกเป็นห่วงลูกมากกกกกกกก
แสดงความคิดเห็น
ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร ดราม่าหนักมากกกกก
เริ่มกันเลยนะคะ
เราขอแนะนำตัวก่อนนะคะ เราชื่อเฟิร์นคะ (นามสมมุตินะ) คือเราเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้าน เรามีพี่น้อง3คนมีพี่ชาย2คน มีน้องชาย1คน เราเป็นเด็กที่ค่อนข้างเรียนเก่งคะ เสาร์-อาทิตย์ก็เรียนพิเศษ แทบจะไม่มีวันหยุด บางทีก็อิจฉาเพื่อนข้างๆบ้านนะที่เค้าไม่ต้องเรียนหนักแบบเรา มีเวลาเล่นมีเวลาพักผ่อน ครอบครัวเรามีฐานะปานกลางคะ พ่อแม่ทำอาชีพค้าขาย เราก็เคยถามพ่อนะว่าทำไมพ่อต้องบังคับให้เราเรียนพิเศษด้วย ทั้งๆที่พี่ชายเราน้องชายเราเค้าไม่ได้รับโอกาสแบบเราเลย พ่อก็บอกว่าเพราะเราเป็นลูกผู้หญิง อยากให้เราเรียนหนังสือให้เยอะที่สุดเพราะเมื่อเกิดแต่งงานไป แล้วไม่มีความรู้ เวลาแฟนทิ้งไปหาผู้หญิงอื่นจะได้มีวิชาติดตัว พ่อแม่ไม่อยากให้เราต้องลำบากเหมือนท่านทั้งสองคะ พ่อกับแม่เราค่อนข้างจะเจ้าระเบียบนิดหน่อยห้ามมีแฟนตอนเรียน เพราะจะกระทบกับการเรียน แต่พ่อกับแม่เป็นคนใจดี คือถ้าเกิดลูกคนไหนตั้งใจเรียนประพฤติตัวดีๆ ใครอยากได้อะไร พ่อกับแม่จะหามาให้ ถ้าเกเรคือขออะไรไม่ได้เลย พอเราเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นเราก็เริ่มมีแฟนคะ ก็แบบคุยโทรศัพท์กันไปดูหนังกันบ้างช่วงเสาร์-อาทิตย์อะไรประมาณนี้ แล้วจู่ๆวันนึงพ่อกับแม่เราก็รู้ว่าเรามีแฟนคะ พ่อนี่ตีเราเลยคะ พ่อให้เราเลิกคบกับแฟน เราก็ห่างๆกันไปสักพักนึงกับแฟน พ่อเราไม่ชอบแฟนเราคนนี้มากคะเพราะเค้าเกเร เค้าไม่เรียนหนังสือด้วยพอเราเข้ามหาลัย (เราเป็นเด็กตจว.คะ มาเรียนในกทม.) เราก็มาอยู่หอ แถวๆมหาลัย เรากับแฟนก็กลับมาคุยกัน แฟนเราก็มาหาเราบ้างนานๆครั้ง เพราะตอนนั้นแฟนเราติดทหารอยู่ที่3จังหวัดชายแดนคะ ไม่ค่อยได้คุยไม่ค่อยได้เจอกัน ขออธิบายเพิ่มเติมนิดนึงนะคะ แฟนเราชื่อเอ็ม(นามสมมุติ). บ้านแฟนเรามีพี่น้อง6คนคะ นับถือศาสนาอิสลาม ฐานะทางบ้านคือมีกินมีใช้ไม่ถึงกับจนนะคะ แฟนเราแก่กว่าเรา3ปี เค้าเรียนจบชั้นม.6 แล้วก็เค้ากะจะหยุดเรียนไปเกณฑ์ทหารก่อนแล้วค่อยกลับมาเรียนต่อคะ. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วคะตอนนั้นมหาลัยเราปิดเทอม 6เดือนคะ จะทำอาเซียน เราก็กลับไปอยู่บ้านที่ ตจว. หารายได้ช่วงปิดภาคเรียน พอแฟนเราได้มีโอกาสลากลับบ้านเราก็ได้เจอกันบ้างช่วงวันหยุดเพราะเราต้องทำงาน ช่วงที่เราทำงานเราก็ไม่สบายบ่อยคะ ชอบเวียนหัว จะเป็นลมอยู่บ่อยๆ แต่เราคิดว่าคงไม่เป็นอะไรหรอก พอเปิดเทอมเราก็ไปเรียนปกติ จนผ่านไปช่วงเดือนกรกฎาคม 2557 ประจำเดือนเราไม่มาคะ แต่เราก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะเราเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้ว ก่อนหน้านั้นประจำเดือนยังมาอยู่ พอเดือนสิงหาคมประจำเดือนก็ยังไม่มา ตอนนั้นแฟนเรามาหาเราที่กทม.พอดี เราก็ไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ตี3เราลุกขึ้นมาตรวจ ก็ปรากฏว่าขึ้น2ขีด คือเราช๊อคมาก รีบปลุกแฟนขึ้นมาดูว่าเราไม่ได้ตาฝาดไป คือเราร้องไห้หนักเลยคะ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ (เราป้องกันนะแต่ก็ไม่รู้ว่าพลาดตอนไหน) เราร้องไห้แฟนเรากอดเราปลอบเราเค้าสัญญาว่าจะดูแลรับผิดชอบเรา พอตอนเย็นเราก็ไปโรงพยาบาลแถวๆอนุเสาวรีย์ชัยคะ ไปตรวจให้แน่ใจอีกครั้ง หมอก็บอกว่าเราท้องได้3เดือนกว่าแล้วคะ หมอบอกว่าห้ามไปทำแท้งเด็ดขาดเพราะเด็กมีหัวใจแล้ว เค้าคงเห็นเราเป็นนักศึกษาอ่ะคะสงสัยกลัวว่าเราจะคิกสั้น และก็แนะนำให้รีบฝากครรภ์คะ เราเลยให้แฟนเราโทรไปบอกกับทางบ้านเค้าคะ แม่ของแฟนเค้ารับรู้ แต่เราไม่ได้บอกกับทางครอบครัวเรานะคะ เพราะพ่อเราเคยพูดไว้ถ้าเกิดเราท้องตอนเรียนเค้าจะตัดพ่อตักลูกไม่ส่งเสียเราอีกเลยคะ เราก็เลยกลัว ไม่กล้าบอกกับทางครอบครัว เราก็คุยกับแม่ของแฟนเราว่าเรายังเรียนอยู่พอเราคลอดเราให้เค้าช่วยเลี้ยงลูกของเราก่อนได้ไหม พอเรียนจบเราจะเลี้ยงลูกของเราเอง แม่แฟนก็ตกลงคะ แม่ของแฟนก็เป็นห่วงเป็นใยเราดีนะคะ เพราะทางบ้านแฟนเราเค้ายังไม่มีหลานสักคน พอแฟนเราเค้าพาเราไปฝากครรภ์เสร็จอีกวันเค้าก็รีบกลับค่ายทหารเลยเพราะหมดวันลาแล้ว พอสิ้นเดือนเงินเดือนแฟนเราออกเค้าก็โอนเงินมาให้เราทุกเดือนไว้ใช้จ่ายเวลาไปตรวจครรภ์ จนมาถึงวันที่แฟนเราปลดทหารต้นเดือนพฤศจิกายน เค้าก็กลับไปอยู่บ้าน ตอนนั้นเราท้องได้4เดือนแล้วคะ เราก็บอกว่าให้เค้ามาอยู่กับเราที่กทม. มาหางานทำที่นี่นะ เค้าก็บอกว่าไม่เอา อยากอยู่บ้านอยู่กทมมันลำบากอยากอยู่บ้านมากกว่า คุยกันตกลงกันไม่ได้เราก็ทะเลาะกัน เราเลยบอกว่าไม่คิดจะมาดูแลเรากับลูกหน่อยเหรอ อยู่หอคนเดียวมันอันตรายหากลื่นล้มเป็นอะไรไป เราก็ท้องอยู่ด้วย จนพอเดือนธันวาคมเราปิดเทอม เราอยู่หอคนเดียวมันลำบากจะออกไปซื้อข้าวซื้อขนมก็ลำบาก คือหอเราอยู่ลึกอะคะ แล้วในซอยก็ไม่ค่อยมีร้านอาหารซักเท่าไหร่ เราเลยตัดสินใจกลับบ้านไปอยู่บ้านแฟนก่อน เราก็โทรไปขออนุญาต แม่แฟนนะคะว่าขอไปอยู่ด้วยซักเดือนนึงเปิดเทอมเราค่อยกลับมาเรียนต่อ แม่แฟนก็ตกลงคะ พอไปถึงบ้านแฟนแม่เค้าก็ดูแล เทคแคร์ทำกับข้าวให้ทาน ก็ดีคะ แต่พ่อของแฟนยังไม่รู้นะคะว่าเราท้อง เพราะเราอยู่บ้านหลังเล็กไม่ได้ขึ้นไปบนบ้านใหญ่ ยกเว้นไปอาบน้ำ เราไปอาบน้ำตอนดึกพ่อแม่เค้าก็หลับกันหมด จนวันนึงเราเดินไปบนบ้านใหญ่มีคนมาหาแม่แฟน เค้าก็ถามแม่แฟนนะคะว่านี่ลูกสะใภ้เหรอ แม่แฟนก็บอกว่าใช่ เค้าก็ถามอ้าวนั่นท้องเหรอ ท้องกี่เดือนล่ะ เราก็ตอบไป พอตอนค่ำพ่อแฟนก็เรียกแฟนขึ้นไปคุยคะว่าอยู่กันยังไง ทำไมปล่อยให้ท้อง ศาสนาก็เรียนมาแล้วอะไรประมาณนี้อะคะ แฟนเราก็เงียบ แล้วก็ทางครอบครัวแฟนเราเค้าก็คุยกัน คือจะพาเราไปทำพิธีนิก๊ะฮ์คือให้เราเข้ารับศาสนาอิสลามแล้วก็หมั้นกับแฟนให้ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม เราก็บอกว่าจะได้เหรอ คือพ่อแม่เราเค้ายังไม่รู้เรื่องที่เราท้องเลย คือพิธีนิก๊ะฮ์ต้องมีพ่อแม่ฝ่ายชายและพ่อแม่ฝ่ายหญิงรับรู้และยินยอม แต่ในกรณีเราคือแต่งตั้งให้โต๊ะอิหม่ามทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองของเราแทน เราก็อืมยังไงก็ได้ แล้วแต่ คุยกันพ่อแม่แฟนก็ตกลงจะพาไปทำพิธีนิกะฮ์ในวันที่1 มกราคม 2558 ช่วงที่เราอยู่บ้านแฟนเรากับแฟนทะเลาะกันบ่อยมาก แฟนเราเป็นคนติดเพื่อน ไปนั่งบ้านเพื่อนแถวๆบ้านกลับมาดึกตี1 ตี2 ชอบไปยิงนกตกปลาใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไปตกปลากลับบ้านตี2 ตี3ก็มีไม่เครียดกับชีวิต แต่เราเป็นคนที่จริงจังกับชีวิต คือมีเป้าหมายในชีวิตที่แน่นอน วางแผนอนาคตไว้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป แต่แฟนเราเค้าไม่ได้วางแผนอนาคตไว้เลย เพราะเค้าคิดแค่ใช้ชีวิตให้ผ่านไปวันๆ เพราะพระเจ้ากำหนดวันตายไว้แล้ว คือศาสนาอิสลามเค้าไม่มีชาติหน้าคือเกิดมาครั้งเดียวตายครั้งเดียว สอนให้ศรัทธาในพระเจ้า เราก็แบบอะไรว่ะ คนเราจะไม่มีการวางแผนอนาคตไว้เลยเหรออะไรเนี่ยยยยยยยย!!! พอถึงวันทำพิธีนิก๊ะฮ์ ก็ผ่านไปด้วยดี แต่คือตอนนั้นพิธีหมั้นเราไม่ได้อะไรเป็นสินสอดเลยคะ เงินสักบาทก็ไม่มีแหวนสักวงก็ไม่มี คือไม่มีอะไรเป็นสินสอนเลย เราก็เข้าใจนะว่าเค้ายังหางานทำไม่ได้ยังไม่มีเงินเก็บ เราก็อืมไม่เป็นไร พอถึงวันที่มหาลัยเราจะเปิดเทอมเราก็กลับมากทม. ก่อนกลับกทม.เราแอบไปซื้อตั๋วรถทัวร์ไว้ให้แฟนเราตามขึ้นมากทม. เราจะให้เค้ามาทำงานที่นี่มาดูแลเราด้วยตอนนั้นท้องเราเริ่มใหญ่ช่วยเหลือตัวเองลำบากจะหยิบจับอะไรก็ลำบาก เค้าก็มา มาถึงกทม.เราก็พาเค้าไปหางาน จนได้ทำงานห้าง แถวๆหอพัก คือตอนที่เค้ามา เค้าไม่มีเงินติดตัวมาเลยคะพ่อแม่เค้าก็ไม่ให้มาเลย อยู่กันสองคนค่าใช้จ่ายมันก็เยอะ พ่อเราให้จ่ายเป็นรายอาทิตย์อาทิตย์ละ1500 สิ้นเดือนค่าห้องค่าน้ำไฟพ่อเราก็รับผิดชอบหมด ถ้าเกิดไม่พอจริงๆก็ขอเงินพ่อเพิ่ม บางทีเราหมุนเงินไม่ทันก็ต้องยืมเพื่อนๆมาใช้ พอเงินเดือนเดือนแรกของแฟนเราออกก็ดีขึ้นมานิดนึงพอจะมีเงินใช้จ่าย ตอนนั้นแม่แฟนก็โทรมาคุยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบทั่วไป แต่เค้าก็ไม่เคยถามเรื่องเงินเลยว่ามีใช้ไหม อะไรอย่างงี้ เราก็อยู่กับแฟนใช้ชีวิตคู่ที่กทม.ก็ค่อนข้างโอเค แต่ไม่ถึงกับมีความสุขเพราะเรายังทะเลาะกัน แฟนเราเค้าไม่ค่อยเป็นระเบียบสักเท่าไหร่ เราค่อนข้างจะเป็นระเบียบและสะอาดมากกว่า แต่ก็ไม่มีปัญหาเรื่องเที่ยวเตร่กลับดึกเหมือนอยู่ที่บ้านคะ จนเราท้องได้9เดือนกว่าๆป้าที่เป็นพี่สาวแท้ๆของพ่อเค้ามาเยี่ยมเราที่หอ ตามที่อยู่ที่เราเคยให้ไว้ เราก็งงมาก ป้าเรามาเยี่ยมเราที่หอ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราอยู่กทม.มาตั้งนานเป็นปีไม่เคยมีใครมาเยี่ยมที่หอ แม้กระทั่งพี่ชายแท้ๆเราที่อยู่กทม. เราก็แบบตกใจมากป้าเราเค้าเห็นเราในสภาพที่ท้องแบบนี้เค้าต้องไปบอกพ่อแม่เราแน่ๆเลย เราเคลียดมากใกล้คลอดแล้วด้วยนอนคิดทั้งวันทั้งคืนไม่เป็นอันทำอะไร ไปเรียนก็ไม่มีสมาธิ เรากลัวว่าถ้าพ่อเรารู้พ่อเราจะต้องโกรธเกลียดเราไม่ส่งเงินให้เราใช้ ไม่ส่งเราเรียนต่อแน่ๆเลย แต่ป้าเรารับปากว่าจะไม่บอกพ่อเรา ให้เราคลอดและให้เราสอบให้เสร็จแล้วค่อยหาทางออกกันอีกที พอผ่านไปสักอาทิตย์นึงแฟนของพี่ชายเราเค้าก็แชทมาคุยกับเราบอกให้เราโทรไปหาพ่อขอโทษพ่อ เราก็งง จะให้เราขอโทษเรื่องอะไร แฟนพี่ชายเราก็บอกว่าเรื่องนั้นแหละ พ่อรู้แล้ว เราก็ถามว่าแล้วพี่น. (ชื่อแฟนพี่ชายเรา)รู้เรื่องนี้จากไหน ใครบอก พี่น.ก็บอกเราว่ารู้มาจากพี่ชายเรา อาเราเค้ามาคุยกับพ่อเรา พี่สาวเราที่เป็นญาติกับเราเค้าก็บอกว่าทันทีที่พ่อเราทราบเรื่องของเราพ่อเราก็นิ่งเงียบน้ำตาคลอเบ้าเลย พ่อเราบอกกับอาว่าพ่อเราทั้งโกรธทั้งเกลียดเราไม่อยากให้เรากลับไปเหยียบที่บ้านแล้ว อาเราเค้าก็คุยกับพ่อว่าอย่าโกรธเราเลยยังไงก็ลูก อย่าไปตัดเลย สงสารมันเถอะ อีกอย่างเราก็ยังไปเรียนหนังสือตามปกติไม่ได้กระทบกับการเรียนสักหน่อย เราก็โทรไปหาพ่อ จะขอโทษจะคุยกับพ่อ พ่อเราไม่รับสายตัดสายทิ้งปิดเครื่องไป เราก็รู้สึกผิดมากๆ เราเลยส่งข้อความไปแทน เราไม่รู้จะทำยังไงเรากลัวพ่อเราไม่ส่งเราเรียนต่อเราเลยตัดสินใจโทรไปหาแม่เล่าทุกอย่างสารภาพผิดกับแม่ แม่เราทราบเรื่องก็นิ่งไปสักพักแม่เราก็คุยกับเราแบบใช้เหตุผลแม่ก็บอกว่าแม่เคยเตือนเราแล้วว่าให้เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนี้เพราะเค้าดูแลเราไม่ได้เค้าส่งให้เราเรียนต่อไม่ได้ เค้ารับผิดชอบชีวิตเราไม่ได้ จะคบใครก็คบคนที่เค้าดูแลเรารับผิดชอบเราได้ถ้าเกิดวันนึงพ่อกับแม่เป็นอะไรไปเราจะได้ไม่ลำบาก แล้วแม่เราก็ถามเราว่ามีเงินค่าทำคลอดรึยัง เราก็บอกว่าพอมีอยู่บ้างแต่ก็ยังไม่พอค่าทำคลอด แม่เราก็รับปากว่าถ้าพ่อเราไม่ส่งเราเรียนต่อแม่จะรับผิดชอบต่อเอง เราก็เริ่มเบาใจนิดนึงคะ พอเช้าอีกวันแม่เราก็แอบให้น้าเราไปธนาคารโอนเงินมาให้เราเป็นค่าทำคลอดแม่กับพ่อเราก็ใช้ชีวิตปกติทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะพ่อเราคิดว่าแม่เรายังไม่ทราบเรื่องของเรา(ทุกคนเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับเพราะแม่เราเพิ่งผ่าตัดเสร็จ แม่เราเป็นโรคไตคะเค้ากลัวว่าแม่จะช๊อคหรือเป็นอะไรไปเลยไม่มีใครกล้าบอกแม่) ตอนที่แม่เราโอนเงินมาให้เราก็บอกแฟนนะว่าแม่เราให้เงินมาช่วยค่าทำคลอดแต่เราบอกว่าเราจะเก็บเงินส่วนนี้ไว้ซื้อของใช้ที่จำเป็นให้ลูก ส่วนค่าทำคลอดให้เค้าเป็นคนรับผิดชอบ จนถึงวันคลอด เราคลอดเสร็จเราก็โทรไปหาแม่ เราก็บอกว่าเราคลอดล่ะนะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง เราก็ถามแม่ละเป็นยังไงบ้างแผลผ่าตัดอ่ะหายรึยัง แม่เราก็บอกว่าแผลบวมอักเสบ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล เราก็ถามอีกแม่ทานข้าวรึยัง แม่บอกทานแล้วทานได้นิดหน่อยกินไม่ค่อยลง เราก็ถามแม่ทานข้าวกับอะไร แม่ตอบมาเราจุกมากน้ำตาไหลเลย แม่บอกว่านั่งทานข้าวกับน้ำตาทุกวัน แม่เราบอกว่าแม่เราหัวใจจะสลายที่เราทำตัวอย่างนี้ พอเราออกจากโรงพยาบาล เราได้พัก5วันเราก็ไปสอบปลายภาคที่มหาลัยให้เสร็จ แฟนเราก็เลี้ยงลูกช่วงที่เราไปสอบ เราคลอดช่วงต้นเดือนพ.ค. แม่แฟนก็โทรมาบอกจะมาเยี่ยม มาจากตจว.คะ เค้าจะมาช่วยดูแลลูกให้เราช่วงที่เราไปสอบเพราะแฟนหยุดงานไม่ได้แล้ว เราก็โอเคจัดการจองตั๋วเครื่องบินให้แม่แฟนมากับน้องชายวันที่ 11 พ.ค.